✅  ความหย่อนคล้อยใต้ตาที่ไม่ใช่เป็นถุงไขมัน จะมีหลายลักษณะด้วยกันเริ่มตั้งแต่การมีริ้วรอยเล็กน้อยจนไปถึงการเกิดร่องบริเวณแก้มส่วนหน้า ทั้งนี้จะต้องอาศัยวิธีการรักษาที่เพิ่มมากขึ้นหรือแตกต่างออกไปจากการผ่าตัดแก้ไขถุงไขมันใต้ตาเพียงอย่างเดียว

✅  ถุงไขมันใต้ตาที่มาพร้อมความหย่อนคล้อย นอกจากจะรักษาด้วยการผ่าตัดแก้ไขถุงไขมันใต้ตาตามวิธีมาตรฐานแล้วยังอาจต้องควบคู่กับการรักษาวิธีอื่นเช่นการผ่าตัดดึงหน้า, การเติมเต็มร่องด้วยการใช้ไขมันตัวเองหรือฟิลเลอร์

✅  กังวลขนตาจะหายไป เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล เนื่องจากByDrforn มีเทคนิค การผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาแบบไร้รอยแผล (เทคนิคผ่าตัดดูดไขมันใต้ตาด้านในไม่ต้องตัดไหม ไม่ต้องพักฟื้น) ซึ่งจะไม่ได้ข้องเกี่ยวกับตำแหน่งขนตา และ เทคนิค การผ่าตัดถุงไขมันด้านนอกแบบชิดขอบขนตา นั่นหมายความว่าแพทย์จะลงรอยผ่าตัดไว้ต่ำกว่าระดับขนตา เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะตัดตอขนตาออกไป แม้จะมีการเล็มความยาวขนตาออกบ้างในคนไข้บางราย เพื่อความสะดวกในการผ่าตัด จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีขนตา

✅  กล้ามเนื้อใต้ตา หรือ Dolly eye จะไม่หายไป กล้ามเนื้อนี้ไม่สามารถตัดออกได้ เพราะ เป็นส่วนกล้ามเนื้อรองรับขอบตา (orbicularis roll) เป็นหนึ่งในโครงสร้างสำคัญที่ช่วยค้ำจุนรูปร่างตาล่าง ขนาดของกล้ามเนื้ออาจจะเล็กใหญ่สองข้างไม่เท่ากัน เป็นมากเป็นน้อยก็ขึ้นกับแต่ละบุคคล ทั้งนี้สามารถลดขนาดกล้ามเนื้อลงได้ ด้วยการฉีดยาคลายมัดกล้ามเนื้อ

✅  กังวลใต้ตาจะลึกโบ๋ เมื่อผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาออกไป ก่อนอื่นต้องรู้ว่า แพทย์ไม่สามารถนำไขมันใต้ตาออกไปจนหมดได้ เนื่องจากหนึ่งในข้อดีของไขมันใต้ตาคือโครงสร้างที่ช่วยค้ำจุน รูปร่างขอบตาล่างให้คงรูปสวยงามเช่นกัน ฉะนั้นแพทย์จะผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาในส่วนที่ปูดออกมาเท่านั้น และจัดเรียงโครงสร้างด้านในให้เหมาะสมมากขึ้น

✅  ไขมันที่ตัดออกถาวรออกไปแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีกแต่โครงสร้างใต้ตาที่หย่อนคล้อยและทรุดตัวลง(ตั้งแต่ ผิวหนังกล้ามเนื้อ เอ็นตา กระดูกใต้ตา) ตามพันธุกรรม กาลเวลา วิถีชีวิตประจำวัน(อดนอน,ใช้สายตาเยอะ หรือ ขยี้ตาบ่อย) และ โรคประจำตัว อาจทำให้ดูเหมือนมีไขมันปูดออกมาเล็กน้อย ซึ่งต้องแก้ไขด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติมตามความเหมาะสม